GEO-MAP or GEO-Localization เพื่อการส่งสินค้าไปยุโรป
เมื่อวันพุธที่ 19 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา รัฐสภายุโรป มีมติเห็นชอบกฏหมายที่ให้บริษัทที่จดทะเบียนขายสินค้า ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ต้องจัดทำรายงานตรวจสอบสถานะ และข้อมูลที่พิสูจน์ได้ว่า สินค้าที่นำเข้าสหภาพยุโรป ไม่ได้เป็นผลผลิตที่เติบโตบนที่ดิน ที่มีการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก หลังจากปี 2020
กฎหมายดังกล่าวมีขึ้นเพื่อจัดการกับการตัดไม้ทำลายป่าจากระบบซัพพลายเชนของสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันในยุโรป ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าเกษตรหลายชนิด เช่น ถั่วเหลือง เนื้อวัว น้ำมันปาล์ม ไม้ โกโก้ กาแฟ ยาง ถ่าน และสินค้าที่ผลิตจากสินค้าเหล่านี้ อย่าง หนัง ช็อกโกแลต และ เฟอร์นิเจอร์
อย่างไรก็ตามยังต้องรออนุมัติอย่างเป็นทางการจากประเทศสมาชิกในคณะมนตรียุโรป ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งเท่ากับว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีเวลา 18 เดือน และบริษัทขนาดเล็กจะมีเวลานาน 24 เดือนในการปรับตัว สำหรับบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมายใหม่นี้จะต้องถูกปรับสูงถึง 4 % ของผลประกอบการของบริษัทในประเทศใด ประเทศหนึ่ง ในสหภาพยุโรป ส่วนประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปก็จะดำเนินการตรวจสอบให้บริษัทต่างๆ ปฏิบัติ ตามกฎหมายที่บังคับใช้ด้วย
ดังนั้นสำหรับการขายสินค้าไปยุโรปหลังจากนี้ จึงต้องมีการแจ้งแหล่งผลิตสินค้า การขายสินค้าจึงจำเป็น ต้องปรับเปลี่ยนโดยการขายจะต้องใช้ระบบ Lot Control มาช่วย เพื่อแจ้งแหล่งผลิตสิค้าในการขายแต่ละครั้ง
ThaiBusinessHost.com ได้พัฒนาระบบงานเฉพาะ เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลแหล่งผลิตสินค้า (GEO-MAP) การทำงานของระบบ คือ
- เก็บข้อมูลผู้ผลิต และแหล่งผลิตของผู้ผลิต
- สร้าง Lot No. ที่ใช้ในการรับสินค้าจากผู้ผลิต
- บันทึกเอกสาร ใบส่งสินค้า โดยระบุ Lot No.
- พิมพ์เอกสาร ใบส่งสินค้า ที่ระบุ Lot No. เพื่อเป็นเอกสารที่ใช้อ้างอิงแหล่งผลิต